เธอกับฉันกับฉัน เต็มเรื่องฟรี
เธอกับฉันกับฉัน เต็มเรื่องฟรี ซีนที่หน่วงพอสมควร เมื่อยูตัดสินใจกลับกรุงเทพ โดยทิ้งเพียงจดหมาย และกลับเกิดเรื่องราวพีคสุดๆ ซึ่งก็ชวนลุ้นได้ทั้งสองแง่ พร้อมกับกลิ่นอายความขบขันที่ GDH มักจะแทรกให้ได้รู้สึกพีคอยู่เสมอ
ฝาแฝดมีจิตสัมผัสถึงกันจริงไหม : ในเรื่อง ยู กับ มี ได้เผยว่า เธอกับฉันกับฉัน เต็มเรื่องฟรี ทั้งสองคนมักจะพูดขึ้นมาพร้อมกัน แต่อีกเรื่องที่ทำให้คนดูได้เห็นระหว่างทาง คือ การมีจิตสัมผัสถึงกัน เพราะทั้งยูและมี ก็ต่างรู้สึกแปร๊ปๆ ขึ้นมาในใจ
เธอกับฉันกับฉัน ว่ากำลังเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับอีกฝ่าย เธอกับฉันกับฉัน เต็มเรื่องฟรี โดยที่ทั้งคู่ก็ได้แต่แอบตั้งคำถามเรื่องนี้เหมือนกัน นั่นยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่า เกิดมาเป็นแฝดกันแล้ว คงไม่มีใครรู้ดีเท่าเรา
รีวิว หนังใหม่ GDH รักครั้งแรกของฝาแฝด – เผชิญปัญหา Y2K
“ถ้าพรุ่งนี้โลกแตก เราจะทำอะไร” : ปัญหา Y2K (Year 2 kilo) หรือ ปัญหา 2000 ด้วยเส้นเรื่องที่ดำเนินอยู่ในช่วงปี 1999 ตรงกับยุคที่กำลังเกิดปัญหานี้ขึ้น สำหรับ Y2K เป็นปัญหาเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ ที่สมัยนั้นมีความเชื่อว่า หากขึ้นต้นปี ค.ศ.2000 ระบบทั่วโลกจะล่ม และผิดเพี้ยน โดยในเรื่องได้มีการกล่าวถึงเนื่องนี้ ราวกับพาย้อนไป ณ เวลานั้นจริงๆ ถ้าคนที่เกิดทันก็คงจะอินไม่ใช่น้อย แม้แต่คนที่อาจจะไม่ได้เกิดในยุคนั้น คงแบบ อ่อ มีเรื่องแบบนี้ด้วย และนี่คือที่มาจริงๆของ Y2K ในยุคนั้น
รีวิว หนังใหม่ GDH ‘รักครั้งแรกของฝาแฝด – เผชิญปัญหา Y2K
ปัญหา Y2K สอดคล้องคำทำนายนอสตราดามุส หนังสือที่ปรากฏคำทำนายที่ว่าโลกจะแตก ซึ่งเด็กในยุคนั้นคงระแวงไม่ใช่น้อย พร้อมกักตุนของเตรียมอยู่กู้โลก และคงได้แต่ตั้งคำถาม “ถ้าพรุ่งนี้โลกแตก เราจะทำอะไร” นับได้ว่า เป็นคำถามยอดฮิตในยุคนั้น
บทภาพยนตร์ – เนื้อเรื่องสมจริงมาก : แอบนึกตลอดว่า นี่คือการเล่าชีวิคของ 2 สาวฝาแฝดผู้กำกับหรือเปล่านะ เชื่อว่า หลายคนๆที่ดูคงสัมผัสได้ถึงความรัก การแชร์กันและกันของฝาแฝด จนต้องแอบมีน้ำตาร่วงบ้าง เธอกับฉันกับฉัน เต็มเรื่องฟรี และที่สำคัญคือความแตกต่างทางด้านนิสัยของคนสองคน สะท้อนออกมาได้สมจริงสุดๆ ที่สำคัญคือ ฉากที่มีประจำเดือนครั้งแรก สะท้อนรีแอคชั่นของการเติบโตของเด็กสาวได้อย่างชัดเจน
แม้แต่รายละเอียดเล็กๆน้อยที่กลายเป็นจุดที่ช่วยประกายเรื่อง อาทิ เพลงผ้าเช็ดหน้า ของใช้สมัย Y2K ที่ไล่เรียงตั้งแต่การเล่นทามาก็อจจิ ยาวไปถึงการเริ่มมีโทรศัพท์มือถือเครื่องแรก และสถานที่ที่เลือกใช้ถ่ายทำ จ.นครพนม บรรยากาศที่หยุดเวลาไว้ในยุค 90
พลังพิเศษของฝาแฝดและพี่น้อง
อันนี้เป็นอีกซีนที่รู้สึกชอบ เพราะหลายคนที่มีพี่น้องน่าจะต้องเคยมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัว โดยเฉพาะกับฝาแฝด คือจะรู้สึกได้เวลาที่อีกฝ่ายกำลังรู้สึกไม่ดีหรือกำลังเกิดเหตุการณ์อันตราย มันจะเหมือนมีลางสังหรณ์บางอย่างขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ อาจเพราะผู้กำกับหนังเรื่อง You & Me & Meทั้งคุณวรรณแววและคุณแวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ ก็เป็นฝาแฝดเหมือนกัน ถึงแม้นี่อาจจะไม่ใช่พลังพิเศษจริงๆ แต่เป็นความผูกพันธ์ของพี่น้องหรืออะไรทำนองนี้ แต่ก็รู้สึกชอบซีนนี้มากเลย
บทเลิฟซีนที่เหมือนจะมาผิดยุค
จุดที่รู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะกับเนื้อเรื่องก็คงเป็นฉากเลิฟซีนที่ดูผิดยุคอย่างบอกไม่ถูก ถ้าพูดถึงปี พ.ศ. 2542 ซึ่งก็คือเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ยังเป็นยุคที่ผู้หญิงไทยมักถูกปลูกฝังให้รักนวลสงวนตัวและยังไม่ได้เปิดกว้างหรือรับวัฒนธรรมตะวันตกมาแบบในปัจจุบัน แต่ในหนังเรื่องนี้กลับมีฉากที่ยูเสนอตัวว่าอยากจูบกับหมาก ทำให้รู้สึกว่าฉากนี้ค่อนข้างจะแปลกไปหน่อย แม้จะรู้สึกว่าซีนนี้ยังไม่ค่อยเข้ากับยุคสมัย แต่ก็เข้าใจได้ว่าเป็นหนังโรแมนติก ก็ต้องมีฉากกุ๊กกิ๊กบ้าง
You & Me & Me เธอกับฉันกับฉัน
เหตุการณ์ Y2K ในประวัติศาสตร์
คนที่เกิดทันยุค Y2K จะต้องรีเลทกับหลายอย่างในเรื่องนี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว ทรงผม เพลง นิตยสาร โทรศัพท์บ้าน ทามาก็อต ฯลฯ รวมไปถึงเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่บอกว่าโลกกำลังจะแตก โดยในเรื่องนี้จะเน้นไปที่เหตุการณ์ที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ช่วงปี 2000 มากกว่าเรื่องอื่น เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ และเลขฐานสอง ส่วนตัวคิดว่าหนังพูดถึงไอเท็มในยุคนั้นน้อยไปหน่อย แต่จะเน้นไปที่เหตุการณ์คำทำนายว่าโลกจะแตกมากกว่า ก็เลยอาจทำให้คนดูรู้สึกอินน้อยลง
ความสัมพันธ์ของพี่น้องที่สมจริง
อันนี้ก็เป็นอีกจุดที่รู้สึกว่าชอบและมีความสมจริง ก็คือความสัมพันธ์ของฝาแฝดหรือพี่น้องที่อายุใกล้เคียงกัน ตั้งแต่จำความได้ก็มีอีกฝ่ายอยู่ในชีวิตมาตลอด อาจมีทะเลาะกันบ้างเป็นธรรมดา แต่พอนึกว่าถ้าวันไหนที่ต้องใช้ชีวิตคนเดียวโดยไม่มีเค้าอยู่ ก็นึกภาพไม่ออกเลยว่ามันจะเป็นยังไง ข้อดีของการมีพี่น้องคือเหมือนมีเพื่อนสนิทรู้ใจอยู่ในชีวิตตลอดเวลา แม้ว่าจะมีข้อเสียคือมีการตีกันแย่งของบ้างก็ตาม 5555
ซีนอารมณ์มีมิติแบบคนธรรมดา
บางคนอาจจะบอกว่า “มี” เห็นแก่ตัวที่บอกไปว่าคนที่ไปสอบวันนั้นคือตัวเอง ไม่ใช่ “ยู” แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของมีนะ บทบาทของตัวละครทุกคนในเรื่องก็คือคนธรรมดาที่ย่อมมีรักโลภโกรธหลงอยู่แล้ว ทั้งรู้สึกหวงฝาแฝดของตัวเอง ทั้งอิจฉาที่ฝาแฝดมีแฟน แล้วก็เข้าใจความรู้สึกของ “ยู” ที่อยากอยู่กับหมากสองคน หรือความรู้สีกที่คิดว่าแม่รักเราไม่เท่ากับลูกอีกคน ทั้งหมดทำให้ซีนอารมณ์ต่างๆ ของตัวละครในหนัง You & Me & Me ค่อนข้างที่จะมีมิติ ตัวละครมีความเป็นสีเทาๆ ไม่ได้ขาวหรือดำจนแบนเกินไป
ความรู้สึกโดยรวมหลังดู You & Me & Me เธอกับฉันกับฉัน (2023)
โดยรวมให้คะแนน 8.5/10 ถือเป็นหนังโรแมนติกฟีลกู๊ดที่ย่อยง่าย ไม่ต้องคิดเยอะ ไม่ต้องมีบทวิเคราะห์หรือทฤษฎีมากมายมาให้ปวดหัว สามารถดูได้เพลินๆ พล็อตเรื่องเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของพี่น้องและครอบครัว แม้ว่าตัวโลเคชั่นจะเป็นต่างจังหวัดซะเยอะ จนอาจรู้สึกเหมือนเป็นหนังแบบ Slice of Life ธรรมดาไปบ้าง แต่ก็รู้สึกว่าน่ารักดี ได้ซึมซับภาพบรรยากาศของริมฝั่งแม่น้ำโขงของจังหวัดนครพนมแบบเต็มตาอีกด้วย โดยสามารถรับชมหนัง You & Me & Me (2023) ได้แล้ววันนี้ทาง Netflix และสามารถรับชม Netflix ผ่านกล่อง TrueID TV ได้ด้วยนะ
ซีนสัมผัสใจ : จุดที่หลายคนชวนลุ้นคงจะเป็นเรื่องความรัก ซึ่ง “ยู” รู้อยู่แล้วว่า พระเอกชอบ “มี” แต่ด้วยความที่อาจจะไม่เคยมีใครมาชอบเอย หรือจะด้วยนิสัยที่ค่อนข้างจะเป็นคนจริงจังอยู่แล้ว พอเจอเข้าครั้งแรกก็รู้สึกอยากจะตอบรักในครั้งนี้ ส่วนทางด้าน “มี” ที่เคยเจอคนชอบมาบ่อยแล้ว แต่กับพระเอกก็ไม่สามารถบอกได้ว่า ความสัมพันธ์ที่จริงคืออะไร แต่ที่สำคัญคือ ไม่อยากเสียฝาแฝดให้ใคร และนี่คิดจุดพิสูจน์ในการเติบโตขึ้นอีกก้าวของเหล่าตัวละคร
นอกจากนั้นตัวหนังอย่าง เธอกับฉันกับฉัน ยังเก็บรายละเอียดต่างๆของการ Coming in Age ในยุค 2000 ได้ครบเลย
ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ต่างๆในช่วงนั้นที่คนคิดว่าโลกจะแตกใน ค.ศ. 2000 หรือ การจีบกันของเด็กๆในสมัยนั้น หรือแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถืออย่าง 3310 ก็มีให้เห็นนะเออ ที่แบบยิ่งดูแล้วก็ยิ่งอยากย้อนเวลากลับไปในยุคนั้นเลยจริงๆครับ บอกว่าเลยสาวก Y2K ต้องชอบแน่นอนครับกับหนังเรื่องนี้
มากันที่พล็อตเรื่องและการเดินเรื่องของ นะครับ ตรงนี้บอกเลยว่าแค่ดูตัวอย่างก็น่าสนใจแล่วครับ เพราะเรานั่นแถบจะไม่สามารถเดาทางของหนังได้เลยจริงๆครับ แต่จะบอกตรงนี้เลยว่าหนังเรื่องนี้เหมาะกับทุกคนอย่างแน่นอนครับ ด้วยความที่มันย่อยง่าย และค่อยข้างจะสดใส ไม่ซับซ้อน ตรงไปตรงมา ยิ่งกลายเป็นว่าเป็นหนังที่ดูสนุกดูเพลินไปเลยครับ ที่มีทั้งความตลก ผสมกับความน่ารักๆ และปิดท้ายด้วยฉากซึ้งสุดกินใจที่แบบว่าทำคนดูน้ำตาคลอเบ้ากันอย่างแน่นอนครับ ก็ถือว่าหนังเรื่องนี้สอบผ่านแล้วล่ะครับ และในส่วนการเดินเรื่องนั้นก็ไม่ได้มีอะไรมากมายครับ ตัวหนังไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงจุดคลายแม็กที่เป็นอะไรที่ดูเพลินพอสมควรเลยครับ
ezpark