ชิน มาสค์ไรเดอร์
ชิน มาสค์ไรเดอร์ ประกาศศักดากลับมาครานี้ มีทั้งสิ่งที่เป็นดั่งหวัง และน่าผิดหวังเช่นเดียวกัน สำหรับ ภาพยนตร์ “ชิน มาสค์ไรเดอร์” Shin Masked Rider ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากซีรีส์ มาสค์ไรเดอร์ 1971 เพื่อร่วมฉลอง 50 ปี มาสค์ไรเดอร์ ที่คว้าตัวผู้กำกับมาฝีมือ “ฮิเดอากิ อันโนะ” มาควบคุมงานสร้างเต็มรูปแบบ พร้อมการเล่าเนื้อหาแยบยลผสมผสานกับการเดินเรื่องราวแบบไต่อารมณ์ขึ้นไปทีละระดับ ผสมผสานความแอ็คชัน ไซไฟเข้าไปอย่างกลมกล่อม ห้อมล้อมไปด้วยฉากบู๊สู้สุดกำลัง แต่บางทีก็ง่ายเกินไปสำหรับฉากต่อสู้
เป็นเรื่องราวของ ฮอนโก ทาเคชิ ถูกลักพาตัวไปโดย “ช็อคเกอร์” องค์กรสุดชั่วร้าย
ชิน มาสค์ไรเดอร์ และถูกดัดแปลงเป็นมนุษย์ดัดแปลง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการยึดครองโลก ก่อนที่พวกองค์กรร้ายจะล้างสมองให้เขาให้เป็นอาวุธที่ทำตามคำสั่ง เขาก็ได้หนีออกมา และใช้ความสามารถที่ได้รับการดัดแปลงเข้าต่อสู้กับความชั่วร้าย และทำลายล้างองค์กรช็อกเกอร์ ในฐานะ “มาสค์ไรเดอร์”
เปิดฉากออกมาอย่างตื่นเต้นกับการตามล่าขององค์กรช็อกเกอร์ และหญิงสาวที่หนีออกมาจากองค์กร ได้รับความช่วยเหลือจากมาสค์ไรเดอร์ เป็นฉากเปิดที่หวือหวาพอสมควรเพราะการต่อสู้กับออคเมนต์ จัดเต็มไปด้วยเลือดสาดกระเด็นเต็มหน้าจอ ต่อมาเข้าสู่การสร้างปมของตัวละครในการฝากความหวังให้ มาสค์ไรเดอร์ ช่วยเหลือมวลมนุษยชาติ และทำความเข้าใจกับร่างกายของตนเอง พร้อมทั้งตัวละครมีปูมหลังฝังใจในความต้องการพลังจึงเป็นสิ่งที่ยับยั้งชั่งใจเขาพอสมควร
แต่เมื่อเขาตัดสินใจเขาได้เข้าช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เต็มรูปแบบ พร้อมมีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนคู่กับ รูริโกะ ถึงแม้เนื้อหาจะเราแบบไต่ระดับอารมณ์แต่ฉากของการต่อสู้ไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบนั้น เมื่อการต่อสู้กับออคเมนต์ของพวกเขามันดูรวดเร็วและไม่ทันให้เราได้เครื่องติดไฟลุกโชนก็จบลงไปแล้ว แต่ไม่แคล้วมีลาสต์บอสแข็งแกร่ง และเป็นจุดคลี่คลายเนื้อหาทั้งหมดที่ผ่านมา สำหรับการจะสร้างความสุขให้มวลมนุษย์ด้วยวิธีการของพวกเขา เป็นตอนที่สร้างความประทับใจไม่น้อยเลยทีเดียว

ด้านการแสดงดี มีรสชาติของคาแรคเตอร์ตัวละครให้เราได้สัมผัสหลายรสชาติ ทั้งรูริโกะ ดูเหมือนเธอจะเป็นคนแข็งกระด้าง แต่เธอก็มีความอ่อนโยน และอ่อนแอในบางครั้ง ฮอนโก ชายหนุ่มมาสค์ไรเดอร์ผู้มีความอ่อนโยน แต่มีความหวังที่จะช่วยเหลือผู้คน อิจิมอนจิ มาสค์ไรเดอร์คนที่ 2 เป็นตัวละครที่ชูอารมณ์ความสนุก และเรียกรอยยิ้มได้ดีทีเดียว เพราะมีความกวน ทะเล้น และตนเองเป็นอิสระ นอกจากคาแรคเตอร์ที่แสดงบทบาทออกมา การสื่อสาร ทางใบหน้า น้ำเสียง ยังส่งผ่านอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ทั้งฉากเศร้าเคล้าน้ำตามาด้วยเสียงสะอื้น ฉากชื่นมื่นความประทับใจ
ด้านมุมกล้องจะบอกว่าส่วนใหญ่ใช้แทนสายตาของตัวละครก็ว่าได้ แต่มันกลับค่อนข้างทำให้มีความสั่น และวกไปวนมาอาจดูลำบากไปสักนิด บวกกับโทนสีบางช่วงอึมครึมยิ่งทำให้การแสดงไม่ชัดเท่าไร อาทิ ฉากต่อสู้ในบางครั้งแทนสายตาของผู้ที่ด้อยกว่าทำให้ภาพที่ออกมาเหมือนกลิ้งไปกลิ้งมาและบางจังหวะไม่มีมุมกว้างให้เห็นการต่อสู้นั้นอีกด้วย นอกจากนั้นการใช้มุม Close-Up มีการจัดวางสัดส่วนไม่ค่อยพอดี บางทีศีรษะตัดไประดับหนึ่ง หรือการใช้มุมกล้องในการคุยกันทั้งสองฝ่ายการตัดต่อสลับใบหน้าไปมาค่อนข้างไว มันเลยไม่ค่อยชัดเจนในภาพเท่าไรนัก
บวกมากับเรท 13+ แน่นอนว่ามีฉากแอ็คชัน และเลือดสาด แต่เอฟเฟกต์เลือดจะว่าดีก็ไม่เต็มปาก เพราะโทนสีก็ไม่สมจริงเท่าไรนัก ทาง CG มีโดดออกมาบ้างในการต่อสู้ที่ดูแล้วแอบไม่ค่อยเนียนมากนัก แต่มีสิ่งที่ประทับใจอยู่นั่นคือ องค์ประกอบเสื้อผ้าของออคเมนต์ ค่อนข้างทำออกมาได้ดี มีความสวยงามและใส่รูปแบบเอกลักษณ์ของการเป็นสัตว์ชนิดนั้น ๆ ได้ดี และฉากการเคลื่อนที่ของมอเตอร์ไซต์ของมาสค์ไรเดอร์ รวมถึงการเปลี่ยนรูปแบบของรถนั้นดีทีเดียว
ชิน มาสค์ไรเดอร์
เป็นการฉลองครบ 50 ปีที่ทำออกมาได้ดี แต่ยังมีข้อที่น่าผิดหวังสำหรับเราไม่น้อยเลย การเล่าเรื่องมีระดับอารมณ์ที่น่าสนใจทั้งการเอาชนะจิตใจตนเอง ความเศร้าของการสูญเสีย ฉากเหล่านี้ดึงให้เราเข้าไปในความรู้สึกได้ค่อนข้างดี แต่การต่อสู้เพื่อมวลมนุษย์ ฉากแอ็คชันไม่ถึงกับมีความหวือหวา หรือบู๊เดือดแบบต่อเนื่องมันส์ถึงใจเท่าไรนัก มีให้หยุดพักหายใจเป็นระยะ พร้อมการปะทะของช็อกเกอร์ที่ไม่ได้รู้สึกว่าให้ความท้าทายในการต่อสู้มากเท่าที่ควร การถ่ายทำ มุมกล้องอาจจะสื่อสารผ่านสายตาของตัวละคร แต่การสั่นของกล้องและโทนสีบางจังหวะอาจทำให้ผิดหวังไปเล็กน้อย แต่ทั้งนี้เนื้อหาได้มีข้อคิดเสริมเอาไว้ ให้เราได้เข้าใจความแตกต่างของความสุข การก้าวผ่านความกลัวในจิตใจ และการเสียสละตนเองเพื่อช่วยเหลือผู้คน
ภาพยนตร์(Shin Masked Rider) สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปีของมาสค์ไรเดอร์ ด้วยการนำซีรีส์ไอ้มดแดง เมื่อปี ค.ศ. 1971 มาดัดแปลงสร้างเป็นหนังใหญ่ ได้ผู้กำกับคนดังแห่งยุค “ฮิเดอากิ อันโนะ” มาดูแล ซึ่งมีการตีความไอ้มดแดงใหม่ได้อย่างน่าสนใจ
เป็นเรื่องราวของ ฮอนโก ทาเคชิ ที่ถูกองค์กรร้ายที่หวังจะยึดครองโลกอย่าง “ช็อคเกอร์” ลักพาตัวไป ก่อนถูกผ่าตัดจนกลายร่างเป็นมนุษย์ดัดแปลง ซึ่งขบวนการนี้ต้องการสร้างมนุษย์ดัดแปลงออกมาเพื่อเป็นอาวุธใช้ในการครองโลก แต่แทนที่ ฮอนโก จะกลายเป็นเครื่องมือของพวกคนเลว เขากลับกลายเป็นหอกข้างแคร่ที่มาทิ่มแทง “ช็อคเกอร์” ไม่ให้สามารถยึดครองโลกได้สำเร็จ
หนังความยาว 121 นาที มีแรงดึงดูดให้น่าดูจากหลาย ๆ ปัจจัย ถ้าคุณคือแฟนไอ้มดแดงตั้งแต่ V1 ใครที่เกิดทัน ย่อมต้องอยากดูหนังเรื่องนี้แน่นอน เพื่อรำลึกความหลังครั้งยังเยาว์วัย ส่วนคนที่เกิดไม่ทัน แต่ทันดูไอ้มดแดงยุคหลัง ๆ ก็น่าจะอยากลองดูไอ้มดแดงยุคแรก ๆ สมัยรุ่นพ่อ ว่าจะสนุกขนาดไหน ด้านคนที่ไม่ใช่แฟนไอ้มดแดง แต่การที่นางเอกคือ สาวตับอ่อน “มินามิ ฮามาเบะ” ขวัญใจหนุ่ม ๆ ทั่วโลกที่โด่งดังจากหนัง “Let Me Eat Your Pancreas” ใครจะไม่อยากดูหนังของน้องมินามิ นอกจากนั้น ยังมี “มาซามิ นากาซาวะ” นางเอกแก้มป่องรุ่นใหญ่ขวัญใจหนุ่มไทยมากมาย พร้อมด้วย “นานาเสะ นิชิโนะ” หรือ “นาจัง” สาวสวยอดีตไอดอลวง Nogizaka46 มาช่วยเรียกเรตติ้งอีก ทำให้หนุ่ม ๆ ทั้งหลายคงไม่ยอมพลาดหนังเรื่องนี้แน่
จุดแข็ง
นี่คือหนังฉลอง 50 ปีไอ้มดแดง แฟนไอ้มดแดงก็ต้องอยากดูอย่างแน่นอน การได้เห็น V1 V2 กลับมาโลดแล่นบนหน้าจออีกครั้ง เป็นอะไรที่เปี่ยมสุขยิ่งนัก ฉากซิกเนเจอร์ต่าง ๆ ที่เคยโด่งดังในอดีต ถูกนำมาถ่ายทอดแบบให้ความเคารพ หรือดัดแปลง ปรับปรุงให้ดูดีขึ้นกว่าเดิม
การตีความไอ้มดแดงใหม่ของผู้กำกับ อันโนะ ที่พูดถึงเรื่องปราณ เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ
ฉากการต่อสู้ที่เลือดสาดกระเซ็นแบบเอาถังสีมาเทกันไปเลยจ้า มันไม่ได้น่าสยดสยองแต่อย่างใด ดูแล้วมันก็อดขำไม่ได้ และมันก็สนุกดี ให้บรรยากาศหนังสมัยก่อนที่ไม่ต้องพึ่ง CG อะไรมากมาย เอาถังสีมาเทมาสาดกันไปเลย
ความน่ารักของสาวมินามิ และนาจัง ถือเป็นน้ำทิพย์ชโลมจิตใจให้คนดูสามารถดูไปจนจบได้
จุดอ่อน
หนังพูดเยอะมาก พูดกันน้ำไหลไฟดับ ไม่รู้จะพูดเยอะไปถึงไหน ยัดข้อมูลต่าง ๆ มาให้แบบเต็มคาราเบล พูดจนคนดูจะหลับ จนคนดูเบื่อกันไปเลย
การแปลงกายที่ดัดแปลงใหม่ มันไม่เท่เหมือนเดิม มันไม่มีอิมแพ็คแบบเดิม ทำให้เหมือนขาดอะไรไป
มาซามิ นากาซาวะ โผล่ออกมาแป๊บเดียว มันน้อยเกินไป ถ้าเอามาแค่นี้ อย่าเอามาเลย เหมือนเอามาฆ่ากันชัด ๆ ขณะที่ นาจัง ก็น่าจะให้เวลาออกมานานกว่านี้สักหน่อย มาเร็วเคลมเร็วมาก
เขากลับมาแล้วเด็ก ๆ คนรุ่นใหม่อาจจะไม่คุ้นเคยกับ Shin Kamen Rider แต่หากว่าเป็นคนที่เติบโตมาในยุค 80 – 90 แล้ว น่าจะรู้จักกับเขาเป็นอย่างดี เพราะนี่คือ คาร์เมนไรเดอร์ หรือ ที่คนไทยเรียกติดปากกันว่า ” ไอ้มดแดง ” ที่ล่าสุดได้ทำการเปิดตัวสร้างเป็นหนัง ฉบับไลฟ์แอคชั่น เวอร์ชั่นใหม่ พร้อมกับเผยนักแสดง ที่จะมารับบทนำออกมาแล้ว review-dee – เว็บรีวิวหนัง
ไอ้ มด แดง รุ่นพ่อ ครบรอบ 50 ปี ชิน คาเมน ไรเดอร์
ได้ฤกษ์ยามงามดี เปิดตัวโครงการหนัง “Shin Kamen Rider” อย่างเป็นทางการ
Shin Kamen Rider ได้นักแสดงสาว มินามิ ฮามาเบะ มารับบทเป็น รูริโกะ มิโดริกาวะ
ได้ปล่อยทีเซอร์ออกมายั่วแฟน ๆ ด้วย แบ่งออกเป็น 2 เวอร์ชั่น
รีวิว Shin Kamen Rider ผลงานครบรอบ 50 ปี และ หนังเรื่องที่ 3 จาก ทาง “SHIN”
ได้ฤกษ์ยามงามดี เปิดตัวโครงการหนัง “Shin Kamen Rider” อย่างเป็นทางการ
ezpark