โค ปา อเมริกา 2020 (โปรตุเกส: Copa América de 2021) เป็นการประลองฟุตบอลโกปาอาเมริกา ครั้งที่ 47 ซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอลชายชั้นทีมชาติชิงแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ จัดขึ้นโดยสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ (คอนเมบอล) ในปีนี้จะจัดขึ้นที่ประเทศบราซิล ช่วงวันที่ 13 มิถุนายน ถึง 10 กรระเบียบาคม ค.ศ. 2021 จากเดิมที่จะจัดขึ้นในประเทศโคลอมเบีย และอาร์เจนตินา เดิมทีการแข่งขันชิงชัยจะเริ่มต้นช่วงวันที่ 12 มิถุนายน ถึง 12 กรกฎระเบียบาคม ค.ศ. 2020 ภายใต้ชื่อเรื่อง โกปาอาเมริกา 2020 แต่ต่อมาจากการระบาดทั่วของไวรัสโควิด-19 ในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2020 คอนเมบอล ก็เลยตัดสินใจเลื่อนการแข่งขันออกไปหนึ่งปี เหมือนกับ ยูฟ่า ที่ได้เลื่อนการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 ออกไปเหมือนกัน โค ปา อเมริกา 2020

แฟนบอลฟ้าขาวแห่ต้อนรับ นักเตะอาร์เจนตินากลับไปอยู่ที่บ้านเยี่ยงวีรบุรุษ โค ปา อเมริกา 2020

แฟนบอลแดนฟ้าสว่าง ออกมาแห่แหนต้อนต้อนรับนักเตะกลุ่มชาติอาร์เจนตินา กลับบ้านเกิดดังวีรบุรุษ ข้างหลังโค่นบราซิลคว้าแดูป์ทวีปได้ได้ผลสำเร็จ กลุ่มชาติอาร์เจนตินา หยุดสถิติการรอคอยแดูป์โคปา อเมริกา เอาไว้ที่ 28 ปีได้สำเร็จ หลังเกมนัดชิงฯ เมื่อวันอาทิตย์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา สามารถเอาชนะบราซิลไปได้หวุดหวิด 1-0 จากประตูโทนของ อังเคล ดิ มาเรีย ขณะที่ ลิโอเนล เมสซี ก็คว้ารางวัลนักเตะดีเยี่ยมที่สุดไปครองตามคาด ซึ่งปัจจุบัน ลิโอเนล สคาโลนี กุนซือใหญ่กลุ่มชาติอาร์เจนตินา พร้อมนักเตะและทีมงาน ได้เดินทางกลับถึงบ้านกำเนิดเรียบร้อยแล้ว โดยมีแฟนบอลหลายพันคน มายืนรอต้อนรับที่สนามบินในกรุงบูเอโนส ไอเรส ด้าน เมสซี กล่าวเปิดใจกับสื่อแคว้นว่า “ผมเข้าใกล้กับการเป็นแชมป์มาหลายครั้งแล้ว แต่ก็พลาดไป อย่างไรก็แล้วแต่ ผมทราบดีว่าวันนี้ (คว้าแชมป์) จึงต้องควรมาถึงอย่างแน่นอน เกมนี้จะเป็นอีกหนึ่งแมตช์ในประวัติศาสตร์ของพวกเรา ไม่น่าใช่แค่การเป็นแชมป์โคปา อเมริกาเพียงแค่นั้น แต่ยังถูกจารึกเป็นเยี่ยมในเกมที่พวกเราเอาชนะบราซิลในบ้านด้วย”

แดูป์ที่ “เมสซี” รอคอย

จบไปแล้วสำหรับการประลองชิงแชมป์ฟุตบอลอเมริกาใต้ ปี 2021 หรือ “โคปา อเมริกา 2021” ที่แข่งขันรอบชิงชนะเลิศไปเมื่อเวลาเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งผลเห็นได้ชัดว่า “ฟ้าขาว” อาร์เจนตินา เฉือนชนะ “แซมบ้า” บราซิล เจ้าภาพร่วมไปหวุดหวิด 1–0 คว้าแดูป์สมัยที่ 15 มาครอง เมื่อกรรมการเป่านกหวีดหมดระหว่างถ้าใครได้ชมทีวีก็ต่างมีความเห็นว่านักเตะฟ้าขาวทั้งสิ้นต่างวิ่งกรูไปที่ลิโอเนล เมสซี กองหน้ากัปตันกลุ่มคนเก่ง ซึ่งก็ไม่แปลกที่ลูกทีมวิ่งไปดีใจด้วย เนื่องจากกัปตันทีมคือหนึ่งในสาระสำคัญของทีม แต่ครั้งนี้มันต่างออกจากเดิมตรงที่การคว้าแดูป์ครั้งนี้ เป็นแดูป์ระดับยาวนานาชาติในนามทีมชาติอาร์เจนตินาเป็นครั้งแรกในชีวิตของเมสซี คนจำนวนไม่น้อยคงจะจะมีความคิดว่านักประพันธ์เขียนไม่ถูกหรือไม่ เพราะคนที่คว้าแดูป์มาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำอย่าง เมสซี ยังไม่เคยได้แชมป์ในนามทีมชาติเลยซักครั้ง เดียวจริงหรือผลสรุปคือถูกต้อง เนื่องจากก่อนหน้าที่ผ่านมากองหน้าวัย 33 ปี คว้าแดูป์ในนามสโมสรอย่างบาร์เซโลนา ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นแดูป์ลาลีกา, แชมป์โกปา เดล เรย์, แดูป์ยูฟ่า แดูเปียนส์ ลีก หรือแดูป์สโมสรโลก เมสซีกวาดมาเรียบ แถมค่าตอบแทนส่วนตัวก็กวาดมาหมดทั้งฟีฟ่า เวิลด์ เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์, บัลลงดอร์ หรืออื่นๆ อีกเยอะแยะ มาตกม้าตายดิ่งกลุ่มชาตินี่แหละที่เมสซี ยังไม่เคยสัมผัสคำว่าแชมป์จำได้ตอนที่อาร์เจนตินาได้แค่รองแชมป์โลกปี 2014 ที่แพ้ให้กับเยอรมนีตอนนั้นหน้าของ เมสซีพูดบุญไม่รับจริงๆ เนื่องมาจากเจ้าตัวหวังไว้มาเป็นเวลากว่าจะคว้าโทรฟีแรกในนามทีมชาติให้ได้ จะว่าไปมันก็เหมือนเป็นอาถรรพณ์ของเจ้าตัวกับกลุ่มชาติ ไม่ว่าในลำดับสโมสรจะเล่นดีเยอะแค่ไหน พอมาเล่นกับทีมชาติฟอร์มของเมสซี มักจะทำเป็นแล้วได้ชั่วร้ายมากแค่ไหน จนโดนแฟนบอล “ฟ้าสว่าง” ครหาว่าไม่ทุ่มเทกับกลุ่มชาติมาแล้ว แต่มาในครั้งนี้ เมสซีทำเป็นแล้วได้เป็นผลคว้าแดูป์โคปา อเมริกา 2021 มาครอง แม้ว่าจะไม่ยิ่งใหญ่เมื่อเปรียบเทียบกับฟุตบอลโลก แต่การบ่งบอกว่าชาติตนเองเจ๋งที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ก็เหมาะสมที่สุดไม่แพ้กัน มั่นใจว่าการปลดล็อกครั้งนี้จะทำให้เมสซี ไม่ต้องเครียดมากนัก เพราะว่าเชื่อว่าการที่ตัวเองเล่นกลุ่มชาติมาถึง 125 นัดแล้วยังไม่เคยสัมผัสคำว่าแดูป์มันก็เป็นสิ่งที่ต้องรับผิดชอบที่อยู่บนไหล่ของกองหน้าร่างเล็กรายนี้มาตลอด จึงไม่น่าฉงนใจที่หลังจบเกมผู้เล่นและสตาฟฟ์โค้ชทุกท่านจะวิ่งไปหาเมสซี กัปตันกลุ่มคนเก่งคนนี้ นอกจากนี้คว้าแชมป์โคปาเป็นครั้งแรกแล้ว เมสซี ยังซิวดาวซัลโวอีกต่างหาก หลังซัดไปทั้งสิ้น 4 ประตู ณ เวลาเดียวกัน เมสซียังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์อีกด้วย แต่ได้เข้าร่วมกับเนย์มาร์ กองหน้ากลุ่มชาติบราซิล ที่ฝ่ายจัดประกาศว่าได้รับสิ่งตอบแทนดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นร่วมกัน ซึ่งพูดดิ่งๆ รับมิได้จริงๆ เอาอะไรคิดให้ MVP ร่วม ทั้งๆที่รางวัลนี้ควรจะเหมาะสมกับเมสซี มากมายยิ่งกว่า ถึงแม้ว่าทั้งสองจะฟอร์มดีก็จริง แต่ท้ายสุดคนที่คว้าแดูป์ในสุดท้ายก็ควรจะได้มากยิ่งกว่า วินิจฉัยเช่นนี้มันเหมือนกันกับเจ้าภาพกลัวเสียหน้า เนื่องจากตั้งแต่ยื่นเป็นเจ้าภาพแทนแล้วหวังว่าจะได้แชมป์มาครองแน่ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นดังที่คิด มาถึงบรรทัดนี้ก็ขอส่อให้เห็นความดีใจกับ เมสซี ที่ไม่อ่อนข้อแพ้จนคว้าแชมป์อันดับชาติสุดท้าย ดีเลวร้ายแชมป์โคปา อเมริกา คงอาจจะเป็นโมเมนตัมที่ส่งต่อให้เมสซีพา “ฟ้าขาว” เถลิงแชมป์โลกในปี 2022 มาครองก็เป็นได้.

“เมสซี” จากวันจึงควรคำสาป “พระรองนิรันดร” สู่ถ้วยแดูป์ใบแรกที่รอคอย

กว่าจะมีวันนี้ที่ได้ชูถ้วยแดูป์โคปา อเมริกา 2021 ลิโอเนล เมสซี จำเป็นที่จะต้องลิ้มรสชาติของการเป็น “พระรอง” ถึง 4 ครั้ง และเกือบอำลากลุ่มชาติอาร์เจนตินา หากเอ่ยถึงชื่อเรื่อง “ลิโอเนล เมสซี” นี่คือสุดยอดนักเตะพรสวรรค์แห่งโลกลูกหนังยุคตอนนี้ที่ว่ากันว่า “100 ปีจะมีสัก 1 คน” ก็อาจจะไม่ผิดนัก รับรองด้วยเกียรติยศมากมายในอันดับสโมสร บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่แห่ง ลา ลีกา สเปน ที่เขาเริ่มตั้งแต่ต้นเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพนับตั้งแต่ปี 2000 ที่ก้าวเข้าสู่ “ลา มาเซีย” อะคาเดมีชื่อราวกับลำดับชั้นโลกของ “เจ้าบุญทุ่ม” ที่ปั้นดินให้เป็นดาวขึ้นมาปลำดับวงการหลากหลายต่อหลายๆคน ตลอด 17 ปีในฐานะนักฟุตบอลอาชีพกับ บาร์ซา นับตั้งแต่ขึ้นสู่กลุ่มชุดใหญ่ในปี 2004 “เลโอ” ได้ชูถ้วยแดูป์จำนวนมากจนกลายเป็นเรื่องปกติ รวมแล้วทั้งหมดถึง 34 ใบ ราวกับตั้งแต่นี้ต่อไป ลา ลีกา – 10 ยุค โกปา เดล เรย์ – 7 ยุค สแปนิช ซูเปอร์คัพ – 7 สมัย ยูฟ่า แดูเปียนส์ลีก – 4 สมัย ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ – 3 สมัย แดูป์สโมสรโลก – 3 สมัย แต่กับกลุ่มชาติอาร์เจนตินาแล้ว คำว่า “การบรรลุผล” ดูราวกับว่าจะเป็นเส้นขยาวนานที่เป็นไปไม่ได้บรรจบกันสำหรับ เมสซี มาโดยตลอด ถ้าไม่นับเกียรติยศในชั้นเชิงเยาวชนจากการได้แชมป์ฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ในปี 2005 ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ และเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ปี 2008 ที่นครกว่างโจว สาธารณรัฐพลเมืองจีน กับกลุ่มชุดยู-23 เขาก็ไม่เคยไปถึงดวงดาวเลยแม้แต่1 ครั้งกับกลุ่มชาติชุดใหญ่ ครั้งแรกที่ยอดดาวเตะซ้ายฟ้าสั่งได้รับรู้กับความหมดหวังเกิดขึ้นในศึกโคปา อเมริกา 2007 ที่เวเนซุเอลา หนนั้น เมสซี ที่กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง และพลพรรค “ฟ้าสว่าง” ซึ่งนำโดยแนวรุกตัวฉกาจอย่าง คาร์ลอส เตเวซ, เอร์นาน เครสโป, ฮวน โรมัน ริเกลเม จำเป็นจะต้องพ่ายแพ้ให้กับ บราซิล ที่มี โรบินโญ, ดานี อัลเวส, จิลแบร์โต ซิลวา ไปแบบขาดลอย 0-3 ในรอบชิงชนะเลิศ ผ่านมา 7 ปี เมสซี ในวัย 27 ที่กำลังไปสู่เวลาพีคในชีวิตค้าแข้ง โชว์ฟอร์มร้อนแรงลำดับชั้น “เดอะ แบก” พา อาร์เจนตินา ฝ่าด่านคู่ต่อสู้รอบแล้วรอบเล่า จนทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล แต่ชะตาชีวิตก็เล่นขบขันให้อกหักซ้ำสอง เมื่อเจอทีเด็ดของ มาริโอ เกิตเซ พังประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษให้ เยอรมนี เฉือนชนะ 1-0 ปาดหน้าคว้าแชมป์โลกไปครอง ปลดปล่อยให้เขาได้แต่มองตาละแขวนณ เวลารับรางวัลลูกฟุตบอลทอง ในสถานภาพผู้เล่นเยี่ยมที่สุดของทัวร์นาเมนต์ซึ่งเป็นแค่ค่าตอบแทนปลอบใจ แม้จะมีสำนวนคนต่างประเทศที่หลายคนคุ้นหูว่า “Third Time Lucky” สำหรับใช้แจกแจงถึงการความหวังพังทลาย, ผิดพลาด และล้มเหลว กับเรื่องเดิมซ้ำๆ ถ้าเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 จากเรื่องร้ายจะกลายเป็นเรื่องดี แต่สำนวนนี้ก็ยังไม่กำเนิดขึ้นอยู่กับสุดยอดนักเตะของโลกอย่าง เมสซี อยู่ดี ถึงแม้ในศึกโคปา อเมริกา 2015 ที่ชิลี “ฟ้าสว่าง” จะอุดมไปด้วยสุดยอดตัวรุก ทั้ง เซร์คิโอ อเกวโร, กอนซาโล อิกวาอิน, อังเคล ดิ มาเรีย, คาร์ลอส เตเวซ รวมถึงผู้เล่นเกมรับดีกรีดีอย่าง ฮาเวียร์ มาสเคราโน, ปาโบล ซาบาเลตา, นิโคลัส โอตาเมนดี แต่แล้วหนังม้วนเดิมก็ถูกฉายซ้ำเพื่อ เมสซี เมื่อจำเป็นที่จะต้องแพ้ ชิลี เจ้ารูปสำหรับการดวลจุดโทษตัดสิน ก่อนขึ้นแท่นเพื่อจะไปรับเหรียญเงินแล้วเดินผ่านหน้าถ้วยแดูป์อีกที ถัดมาเพียง 1 ปี จังหวะที่ “เลโอ” จะหลุดพ้นคำสาปก็เดินทางมาถึงอย่างเร็วทันใจ เมื่อเกิดการจัดทัวร์นาเมนต์ “โคปา อเมริกา เซนเตนาริโอ” ในปี 2016 เพื่อจะฉลองครบรอบ 100 ปีของ สหพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ และศึกโคปา อเมริกา ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งหยิบเป็นหนแรกที่เกิดการจัดศึกฟุตบอลชิงแดูป์อเมริกาใต้นอกทวีป หนนี้น่าจะพูดได้เลยว่า อาร์เจนตินา ที่ผู้เล่นส่วนมากเป็นแกนหลักจากชุดรองแดูป์คราวก่อน เหน้าจอทางสะดวกสบายที่สุด เมื่อสามารถเก็บ 9 แต้มเต็มในรอบแยกประเภทกลุ่ม คว้าแดูป์กลุ่มดี อย่างไม่ยากเย็น ยิ่งกว่านั้น บราซิล ก็ชิงตกรอบไปก่อนจากการจบชั้นเชิง 3 ในหมู่บี แล้วหลังจากนั้นรอบ 8 กลุ่ม และรอบรองชนะเลิศ “ฟ้าสว่าง” ก็เล่นด้วยความแน่ใจ ไล่ทะลวง เวเนซุเอลา 4-1 และสอนเชิง สหรัฐอเมริกา 4-0 ตามระดับ ผลงานแบบนี้ ใครๆ ก็เชื่อว่าถึงระหว่างแล้วที่ เมสซี จะได้ชูถ้วยแดูป์เสียที แต่แล้วสวรรค์กลับกลั่นแกล้งให้เขาเป็นแค่เพียง “พระรองชั่วกัลปวสาน” ต่อจากนี้ไป เมื่อจึงควรพ่ายแพ้ ชิลี คู่ต่อสู้ที่เคยชนะมา 2-1 ในรอบแบ่งแยกกลุ่ม สำหรับเพื่อการดวลจุดโทษตัดสินของรอบชิงชนะเลิศ และตัวเขาเองก็เป็น 1 ใน 2 คนของ อาร์เจนตินา ที่สังหารพลาดด้วย ก่อนจบสิ้นลงด้วยการปราชัย 2-4 หลังเสมอ 0-0 ในระหว่าง 120 นาที

ข้างหลังจบรายการนี้ เมสซี ในวัย 29 ปี ถึงกับออกอาการท้อแท้แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

พร้อมประกาศช็อกวงการลูกหนังโลกว่าเขาขออำลาทีมชาติอาร์เจนตินาแต่เพียงเท่านี้ ด้วยอารมณ์ที่กำลังเล็กน้อยเนื้อต่ำใจในชะตากรรมจากการคว้ารองแดูป์ 3 รายการใหญ่ถึง 3 ปีซ้อน จนตัวเขาไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสคว้าแดูป์ในสถานะขุนพล “ฟ้าขาว” อีกแล้ว การหันข้างหลังให้กลุ่มชาติของ เมสซี แปรเปลี่ยนเป็นวาระแห่งชาติทันที เมื่อ เมาริซิโอ มาครี ผู้บริหาราธิบดีอาร์เจนตินาในตอนนั้นถึงกับเอ่ยปากขอร้องให้เขาเปลี่ยนใจว่า “พวกเราโชคดีที่พระเจ้ามอบของขวัญให้ประเทศของพวกเราด้วยการส่งเขาลงมากำเนิดจนกลับกลายเป็นนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลก ลิโอเนล เมสซี คือหนึ่งในบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ อาร์เจนตินา เคยมี เราจำเป็นที่จะต้องชมแลเขาให้ดีที่สุด” ภายหลัง โฮราซิโอ โรดริเกซ ลาร์เรตา นายกเทศมนตรีกรุงบัวโนสไอเรส ได้สั่งการให้เปิดตัวรูปปั้นของดาวเตะมหัศจรรย์รายนี้ในศูนย์กลางเมืองหลวงของ อาร์เจนตินา เพื่อจะกระตุ้นให้กลับมารับใช้กลุ่มชาติอีกครั้ง ส่วนในโลกโซเชียล คำว่า “NoTeVayasLeo” หรือ “อย่าไปเลยนะ เลโอ” ก็แปรเปลี่ยนเป็นข้อความสำคัญที่ติดเทรนด์ไปทั่วทั้งโลก ณ ตอนนั้น ขณะที่แฟนบอลอาร์เจนตินาก็เกิดการคลุกเคล้ากว่า 50,000 คนในวันที่ 2 กรกฎที่ต้องปฏิบัติาคม ปี 2016 เพื่อที่จะเดินขบวนไปยัง Obelisco de Buenos Aires อนุสรณ์สถานสำคัญภายใต้แคมเปญเรียกร้องให้ เมสซี อย่าพึ่งด่วนเลิกเล่นทีมชาติ เมื่อคนทั้งประเทศบ่งชี้พลังถึงความรักและความเชื่อมั่นในตัวเขาขนาดนี้ แค่เพียงสัปดาห์หลังจากนั้น ลา นาซิออง หนังสือพิมพ์ของอาร์เจนตินาก็รายงานเนื้อหาข้อมูลข่าวสารดีที่ทุกท่านรอคอยว่าเขากำลังพิจารณาเรื่องการเปลี่ยนมารับใช้ทีมชาติอีกรอบในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเฟ้น โซนอเมริกาใต้ ในเดือนกันยายน ก่อนที่จะ เมสซี จะออกมารับรองอย่างเป็นทางในวันที่ 12 ส.ค. หรือเพียงไม่ถึง 2 เดือนหลังการประกาศด้วยอารมณ์ชั่ววูบว่า เขาจะกลับมาสวมเสื้อ “ฟ้าสว่าง” อีกครั้ง เพียงแค่เกมแรกที่กลับมาติดธง “เลโอ” ก็แผลงฤทธิ์ทำประตูชัยให้ อาร์เจนตินา เฉือนชนะ อุรุกวัย 1-0 ช่วงวันที่ 1 กันยายน ปี 2016 ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับในการกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกสักที พร้อมจุดประกายให้ยอดแข้งจาก บาร์เซโลนา มีกำลังใจรับใช้กลุ่มชาติต่อจากนี้ไปในระยะยาว ซึ่งหลังแล้วต่อจากนั้นก็ไม่มีวี่แววว่าจะพูดลาทัพ “ฟ้าขาว” อีกเลย และสุดท้ายหลังจากเวลาล่วงเลยมาเกือบจะ 5 ปี วันที่ทุกคนรวมทั้งเจ้าตัวรอคอยก็มาถึง…     ezpark